(0)
เคาะเดียว มหาฤาษีปไลยโกฏิ รุ่นถิ่นไทยนักปราชญ์ พิเศษ ผลงานออกแบบโดย อ.อำพล เจน








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง เคาะเดียว มหาฤาษีปไลยโกฏิ รุ่นถิ่นไทยนักปราชญ์ พิเศษ ผลงานออกแบบโดย อ.อำพล เจน
รายละเอียด พระมหาฤาษีปไลยโกฏิเนื้อผงว่าน พ่อปู่บัน บันทอน ฤาษีผู้เรืองเวทย์ แห่ง จังหวัดอุบลราชธานี วัตถุมงคลหลายรุ่นของท่าน มีประสพการณ์สูง ผลงาน อ.อำพล เจน หน้าตัก 3.3 สูง 4.3 เซ็นติเมตร โดยประมาณ
ประวัติ
พระฤษีพระองค์นี้บำเพ็ญตบะสร้างบารมีอยู่ในป่า เพื่อหวังสำเร็จฌานบารมีแล้วจะได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ ตั้งใจปฏิบัติกรรมฐานบำเพ็ญพรตด้วยความมานะพยายาม มุ่งมั่นในนิพพานอย่างเดียวด้วยในระหว่างนั้นมวลมนุษย์ทั้งหลายกำลังเดือดร้อน และกังวลเรื่องอาหารการกินมนุษย์ทุกคนต้องดิ้นรนแสวงหาสิ่งของเพื่อประทังความหิวโหยแต่ก็รู้สึกว่าจะหายากเหลือเกินแม้แต่องค์พระฤษีประไลยโกฏิเองก็เถอะ ท่านก็ยังมิวายกังวลห่วงใยประชาชนเหล่านั้นเช่นเดียวกัน มองหาช่องทางใดก็ไม่มีความสามารถช่วยได้ จึงต้องนิ่งบำเพ็ญพรตต่อไป ด้วยอภินิหารและบุญญาธิการของท่านจึงปรากฏเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นมา พายุใหญ่พัดกระหน่ำรุนแรงต้นไม้ใหญ่น้อยหักระเนระนาดต่อจากนั้นฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้น้ำท่วมขังรอบๆอาศรมของพระฤษี แล้วทั้งพายุและฝนก็สงบลงไปในที่สุด
เหตุการณ์อภินิหารในครั้งนี้ก็มีเมล็ดข้าวสาลีปลิวมากับพายุฝนนั้นตกลงมาแถวบริเวณหน้าอาศรมตั้งแต่เชิงบันไดไปจนถึงสระน้ำเมล็ดข้าวสาลีฝังอยู่ในดินที่มีน้ำท่วมอยู่นั้นก็เริ่มกระเทาะเปลือกแตกออกมาเป็นต้นงอกงามเขียวชอุ่มไปทั่วบริเวณ มองดูสวยงามยิ่งนัก พระฤษีประไลยโกฏิก็มีความปลื้มปิติยิ่งนักจึงเฝ้าดูต้นไม้ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นต้นอะไรเหล่านั้น
จนกระทั่งต้นข้าวแตกรวง และสุกเหลืองอร่ามในเวลาต่อมา ทั้งยังส่งกลิ่นหอม พระฤษีก็มีความยินดีรำพึงกับตนเองว่า"มันเป็นผลอะไรกันหว่า ช่างมีกลิ่นหอมยวนใจเหลือเกินไม่รู้ว่ามนุษย์จะกินได้หรือเปล่า เราจะต้องคอยดูว่าจะมีนกกาหรือสัตว์อื่นใดมากินหรือไม่ ถ้านกกากินได้มนุษย์ก็กินได้เมื่อนั้นมนุษย์ก็จะมีอาหารการกินเพิ่มขึ้น" แล้วพระฤษีก็เฝ้าดูอยู่เงียบๆ
ต่อมาอีกไม่นานก็มีนกกระจาบตัวน้อยๆ ไม่รู้ว่าบินมาจากไหนได้ลงมาจิกกินเมล็ดข้าวสาลีจนอิ่มและก่อนบินกลับมันยังคาบเอารวงข้าวสาลีกลับไปด้วย แล้วอีกไม่นาน ก็มีนกกระจาบฝูงใหญ่พากันบินลงมาที่ต้นข้าวสาลีต่างพากันจิกกินอย่างเอร็ดอร่อย ส่งเสียงร้องดังเจี๊ยวจ๊าวจ้อกแจ้กจอแจ ฟังไม่ได้สรรพ เมื่อพวกมันกินอิ่มแล้ว ก่อนกลับทุกตัวยังคาบเอารวงข้าวสาลีกลับไปด้วย
พระฤษีเห็นเช่นนั้นก็ดีใจ คิดในใจว่า ต่อไปนี้มวลมนุษย์จะไม่ต้องเดือดร้อนในเรื่องอาหารการกินอีกแล้วเพราะจะมีอาหารเพิ่มขึ้น รอจนกองทัพนกกระจาบไปหมดแล้ว พระฤษีก็ลงจากอาศรมเก็บรวบรวมเอารวงข้าวสาลีขึ้นมาไว้ในอาศรม เพื่อจะได้ขยายพันธุ์ต่อไปให้ได้มากๆ จะได้พอเพียงกับความต้องการของมนุษย์ ในปีต่อมาพอถึงฤดูกาลที่ฝนตกลงมา พระฤษีท่านก็ไถนาแล้วเอาเมล็ดข้าวสาลีหว่านไปทั่วพื้นดิน พอออกรวงก็เก็บเอามาไว้เป็นพันธุ์ ท่านทำอย่างนี้ทุกปีจนพันธุ์ข้าวสาลีมากขึ้นพอกับความต้องการ ก็นับได้ว่าพระฤษีประไลยโกฏิท่านมีบุญคุณกับมวลมนุษย์อย่างมากมายในด้านของโภชนาการหากท่านไม่สนใจหรือถือว่าธุระไม่ใช่ไม่เก็บพันธุ์ข้าวสาลีเอาไว้ ป่านนี้ก็อาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วก็ได้เพราะนกกระจาบฝูงใหญ่และความรอบคอบของพระฤษีกับความปรารถนาดีของท่านจึงทำให้มนุษย์มีข้าวสาลีเป็นอาหารมาจนทุกวันนี้ นี่แหละคือฝีมือของพระฤษีทำนาองค์นี้แหละ ควรที่พวกเราจะต้องกราบไหว้รำลึกถึงคุณความดีของท่านตลอดไป
ราคาเปิดประมูล 430 บาท
ราคาปัจจุบัน -- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 10 บาท
วันเปิดประมูล ศ. - 03 พ.ค. 2567 - 18:37:33 น.
วันปิดประมูล จ. - 13 พ.ค. 2567 - 18:37:33 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล rpienchana (685)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 ศ. - 03 พ.ค. 2567 - 18:38:19 น.



1


 
ราคาปัจจุบัน :     430 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --


Copyright ©G-PRA.COM